การศึกษาอนุกรมวิธานของพืชวงศ์กล้วยไม้ บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ
(Taxonomic Study on Orchidaceae in the Pa-Hin-Ngam National Park, Changwat Chaiyaphum)


รายชื่อกล้วยไม้ บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
(List of orchids found in the Pa-Hin-Ngam
National Park)

  • Acriopsis indica Wight นมหนู
  • Aerides houlettiana Rchb. f. กุหลาบเหลืองโคราช
  • Bromheadia aporoides Rchb. f. เอื้องจำปา
  • Bulbophyllum affine Lindl. สิงโตงาม สิงโตประหลาด
  • Bulbophyllum blepharistes Rchb. f. สิงโตกลอกตา สิงโตสมอหิน
  • Bulbophyllum lemniscatoides Rolf สิงโตขนตาแดง
  • Bulbophyllum lepidum (Blume) J. J. Sm สิงโตพัดแดง
  • Bulbophyllum parviflorum Par. & Rchb. f. สิงโตรวงข้าวน้อย
  • Bulbophyllum propinquum Kraetzl เอื้องกีบม้าขาว
  • Cleisostoma simondii (Gagnep.) Seidenf. เอื้องสร้อยทับทิม
  • Coelogyne brachyptera Rchb. f. เอื้องเทียน เอื้องลำเทียนปากดำ
  • Coelogyne cumingii Lindl. เอื้องมัน
  • Coelogyne trinervis Lindl. เอื้องหมาก
  • Cymbidium aloifolium (L.) Sw. กะเรกะร่อน
  • Dendrobium compactum Rolfe ex W. Hackett เอื้องข้าวตอก
  • Dendrobium draconis Rchb. f. เอื้องเงิน เอื้องตึง 
  • Dendrobium ellipsophyllum Tang & Wang เอื้องทอง 
  • Dendrobium signatum Rchb. f.เอื้องคำกิ่วเอื้องตีนนกเอื้องตีนเป็ด 
  • Dendrobium unicum Seidenf. เอื้องครั่งแสด เอื้องสายสีแสด 
  • Doritis pulcherrima Lindl. ม้าวิ่ง 
  • Eria dasypus Rchb. f. เอื้องลำอ้วนดอกขน 
  • Eria pubescens (Hook.) Steud. เอื้องคำหิน 
  • Eulophia macrobulbon (Par. & Rchb. f.) Hook. f. ว่านอึ่ง 
  • Eulophia spectabilis (Dennst.) Suresh. ว่านหัวครู ว่านดิน 
  • Habenaria dentata (Sw.) Schltr. นางอั้วน้อย เอื้องข้าวตอก 
  • Habenaria humistrata Rolfe ex Downie ตูบหมูบมดลิ่น
  • Habenaria rhodocheila Hance ปัดแดง สังหิน
  • Luisia curtisii Seidenf. ขอซิง 
  • Panisea uniflora (Lindl.) Lindl. เอื้องรงรอง 
  • Pecteilis susannae (L.) Raf. นางอั้ว เอื้องตีนกบ นางกราย 
  • Peristylus lacertiferus (Lindl.) J. J. Sm. อั้วจิ๋วหนวดงาม 
  • Pholidota recurva Lindl. เอื้องเหลี่ยมลำต่อ เอื้องข้อต่อ 
  • Polystachya concreta (Jacq.) Garay & Sweet. เอื้องคางอ้ม 
  • Spathoglottis affinis de Vriese หัวข้าวเหนียว 
  • Tainia angustifolia (Lindl.) Benth. & Hook. f. เอื้องสีลา 
  • Thrixspermum centipeda Lour.เอื้องกลีบผอมตะขาบเหลืองตีนตะขาบ 
  • Trichotosia dasyphylla (Par. & Rchb. f.) Kraetzl เอื้องเบี้ยไม้ใบขน สามก้อม 


 


Spathoglottis

Blume, Bijdr.: 401, fig. 76 (1825); Benth. & Hook.f., Gen. Pl. 3: 511 (1883).

กล้วยไม้ดิน เจริญเติบโตแบบแตกกอ หัวแบน รูปร่างไม่แน่นอน อยู่ใต้ดินหรือระดับเดียวกับผิวดิน ใบมี 2 - 3 ใบ มีรอยพับตามยาวคล้ายพัด ช่อดอกแบบช่อกระจะเกิดที่โคนด้านข้างของหัว ก้านช่อดอกเรียวยาว มีดอกหลายดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีขนาดเกือบเท่ากัน มักแผ่กางออก กลีบปากมี 3 แฉก แฉกข้างแคบ รูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ มักโค้งขึ้น แฉกกลางมีก้านแคบ มีก้อนนูนรูปไข่ขนาดเล็ก 2 ก้อนที่โคนก้าน โคนก้าน 2 ข้าง มีติ่งขนาดเล็กปลายแหลม 2 อัน ปลายแฉกกลางมักกว้าง เรียบหรือเว้า เส้าเกสรยาว มักโค้ง ก้อนเรณูมี 8 ก้อน อยู่เป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 ก้อน

Spathoglottis affinis de Vriese, Ill. Orch. 2: pl. 15 (1854); Holttum Rev. Fl. Malaya 1: 162, fig. 27a (1957); Seidenf. & Smitinand, Orch. Thailand 3: 346 (1961); Back. & Bakh. f., Fl. Java 3: 333 (1968); Seidenf. in Opera Botanica 89: 58, fig. 28, pl. IVd (1986); 114: 87 (1992); Seidenf. & Wood, Orch. Pen. Mal. & Sing.: 161, figs. 70c-d (1992).- S. lobbii Rchb. f. in Walp. Ann. 6: 455 (1862); Hook. f. in Fl. Brit. India 5: 814 (1890); Grant, Orch. Burma: 190 (1895); Seidenf. & Smitinand, Orch. Thailand 3: 342, fig. 261 (1961).- S. regnieri Ridl., Gard. Chron.: 174 (1887).

   กล้วยไม้ดิน หัวกลม แบน หรือมีรูปร่างไม่แน่นอน มีความกว้างมากกว่าความสูง มักอยู่ระดับเดียวกับผิวดิน มีการฟักตัวในฤดูแล้ง ใบ ออกที่ด้านข้างของหัว รูปใบหอกแกมขอบขนาน ขนาด 5 - 30 x 0.8 - 1.5 ซม. ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ แผ่นใบมีรอยพับตามยาวคล้ายพัด ใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน เส้นใบเห็นชัดเจนทางด้านล่าง ก้านใบยาว 4 - 6 ซม. ช่อดอก ออกที่โคนด้านข้างของหัว ช่อยาว 20 - 70 ซม. มีดอกจำนวนมาก ก้านช่อดอกหนา 2 - 3 มม. ทั้งก้านช่อและแกนช่อดอกมีขนสั้น ๆ ปกคลุม ใบประดับที่ก้านช่อดอกยาว 0.5 - 2 ซม. กระจายห่าง ๆ ดอก สีเหลือง ดอกบานกว้าง 2 - 3.5 ซม. ก้านดอกย่อยยาว 1 - 2.5 ซม. ใบประดับที่ก้านดอกย่อยมีขนาดเล็ก ยาว 3 - 7 มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปรี ขนาด 1.5 - 2 x 0.7 - 0.9 ซม. กลีบดอกมีขนาดเท่า ๆ กับกลีบเลี้ยงคู่ข้างซึ่งกว้างกว่ากลีบเลี้ยงอันบนเล็กน้อย กลีบเลี้ยงทั้ง 3 กลีบผิวด้านหลังมีขนสั้น ๆ ผิวด้านหน้าเกลี้ยง กลีบคู่ข้างมีแถบสีน้ำตาลแดงตามยาว กลีบดอกเกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน กลีบปากมี 3 แฉก แฉกข้างชี้ขึ้นในแนวเฉียง แฉกกลางมีปลายเว้า ก้อนนูน 2 ก้อนตั้งขึ้น ติดอยู่ที่โคนของแฉกกลาง ฐานก้อนนูนเชื่อมกัน ผิวก้อนนูนมีจุดประสีน้ำตาลแดง เส้าเกสรยาวประมาณ 1 ซม. โคนแคบ ปลายกว้าง ก้อนเรณูมี 8 ก้อน อยู่เป็นกลุ่ม ๆ ละ 4 ก้อน ผลแห้งแตก ขนาด 2 - 2.5 x 0.5 - 1 ซม.

ประเทศไทย.- เหนือ: เชียงใหม่ (ดอยสุเทพ) สุโขทัย; ตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย (ภูเรือ) หนองคาย (บึงกาฬ) สกลนคร (ภูพาน); ตะวันออก: ชัยภูมิ (ป่าหินงาม) ศรีสะเกษ (เขาพระวิหาร) นครราชสีมา (เขาใหญ่); ตะวันตกเฉียงใต้: กาญจนบุรี (ปิล๊อก ทองผาภูมิ); ตะวันออกเฉียงใต้: สระแก้ว (อรัญประเทศ) จันทบุรี (โป่งน้ำร้อน); ใต้: ระนอง ( น้ำตกหงาว เขาพ่อตาหลวงแก้ว) นครศรีธรรมราช (คีรีวงษ์) สงขลา (โตนงาช้าง)

การกระจายพันธุ์.- พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

นิเวศวิทยา.- พบมากในพื้นที่โล่งบนดินทรายหรือบนก้อนหินที่มีซากพืชปกคลุมและมีความชื้นมาก ออกดอกและผลระหว่างเดือน สิงหาคม - ธันวาคม

ชื่อพื้นเมือง.- หัวข้าวเหนียว