Polystachya
Hook., Exot. Fl. 2: t. 103 (1828); Benth. & Hook. f., Gen. Pl. 3: 540 (1965).
กล้วยไม้อิงอาศัย เจริญเติบโตแบบแตกกอ ลำลูกกล้วยมีขนาดเล็ก ใบมีจำนวนน้อย เรียงสลับกันเป็น 2 แถว ใบรูปขอบขนาน แผ่นใบเหนียวคล้ายแผ่นหนัง ช่อดอกแบบช่อกระจะ หรือแบบแยกแขนง เกิดที่ปลายยอด ดอกมีขนาดเล็ก จำนวนมาก กลีบเลี้ยงคู่ข้างเชื่อมติดกับฐานเส้าเกสร เกิดเป็นเดือยรูปกรวย กลีบปากเรียบหรือมี 3 แฉก ติดอยู่ที่ปลายฐานของเส้าเกสร ดอกมักมีปลายเดือยชี้ขึ้น เหมือนดอกคว่ำลง มีกลีบปากอยู่ด้านบน ก้อนเรณูมี 4 ก้อน
Polystachya concreta (Jacq.) Garay & Sweet., Orquideologia 9(3): 206 (1974); Seidenf. in Opera Botanica 95: 14, fig. 1, pl. Ia (1988); 114: 319, fig. 213 (1992); Seidenf. & Wood, Orch. Pen. Mal. & Sing.: 566, fig. 258 (1992).- Epidendrum concretum Jacq., Enum. Syst. Pl.: 30 (1760).- Onychium flavescens Blume, Bijdr.: 235 (1825).- Dendrobium flavescens (Blume) Lindl., Gen. Sp. Orchid. Pl.: 85 (1830).- Polystachya siamensis Ridl., J. Linn. Soc. 32: 343 (1896).- P. penangensis Ridl., J. Linn. Soc. 32: 344 (1896).- P. flavescens (Blume) J. J. Sm., Fl. Buitenz. 6: 285, fig. 218 (1905); Holttum Rev. Fl. Malaya 1: 546, fig. 161 (1957); Seidenf. & Smitinand, Orch. Thailand 2: 326, fig. 248 (1960); Isaac-Willams, Orch. Asia: 195 (1988).
กล้วยไม้อิงอาศัย
ลำลูกกล้วยมีขนาดเล็ก มักเกาะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ตั้งตรง ลำรูปไข่ แบน ขนาด 1.5
x 1.5 ซม. มีใบ 3 - 5 ใบ ใบรูปขอบขนาน ขนาด 3.5 - 1.5 x 2 - 2.5 ซม.
ปลายใบแหลมหรือแยกเป็น 2 แฉกเล็ก ๆ ไม่เท่ากัน โคนใบเป็นกาบซ้อนทับกัน
มีสันตามยาวที่ด้านนอกของกาบ ขอบใบเรียบหรือบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบเหนียว
เกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน ใบล่างๆ จะมีกาบหุ้มปิดลำลูกกล้วยจนมองไม่เห็น ช่อดอก
ออกที่ปลายยอดกลางกลุ่มใบ ความยาวช่อ 10 – 25 ซม. ช่อตั้งตรง
เป็นช่อเดี่ยวหรือแยกแขนงสั้น ๆ มีดอกขนาดเล็กจำนวนมากอยู่ชิดกัน ก้านช่อดอกแบน
กว้าง 4 - 5 มม. ขอบ 2 ข้างบางเป็นปีกแคบ ๆ แกนช่อดอกมีขนสั้น ๆ
ดอกสีเขียวแกมเหลือง ดอกบานกว้างประมาณ 5 มม. ลักษณะดอกคว่ำลง ก้านดอกยาว 4 - 5
มม. ใบประดับที่ก้านดอกย่อยสีเขียว มีขนาดเล็ก แคบ ยาว 2 - 4 ม. ปลายแหลม
มักสั้นกว่าก้านดอก เกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน กลีบเลี้ยงอันบนรูปไข่ ขนาด 3 - 4 x 2.5 -
3 ซม. กลีบเลี้ยงคู่ข้างรูปสามเหลี่ยมกว้าง ขนาด 4.5 x 3 – 4 มม.
เชื่อมติดกับฐานเส้าเกสรเป็นเดือยกว้าง กลีบดอกขนาดเล็กรูปแถบ ขนาด 3 x 1 มม.
กลีบปากสีเหลืองอ่อน มี 3 แฉก แฉกข้างรูปสามเหลี่ยม สั้น ตั้งตรง แฉกกลางกว้าง
ขอบหยักมน ปลายเว้าตื้น บนกลีบปากมีผงสีขาวปกคลุม มีสันสีแดงเข้มตามยาว 1
สันบริเวณโคนแฉกข้าง เส้าเกสรมีขนาดเล็ก ก้อนเรณูมี 4 ก้อน ผลไม่พบ
ประเทศไทย.- เหนือ: เชียงใหม่ (ดอยสุเทพ บ่อหลวง แม่สะนาม) แม่ฮ่องสอน (ขุนยวม) พิษณุโลก (ทุ่งแสลงหลวง); ตะวันออกเฉียงหนือ: เลย (ภูกระดึง ภูหลวง); ตะวันออก: ชัยภูมิ (ป่าหินงาม) นครราชสีมา (เขาใหญ่); ตะวันตกเฉียงใต้: กาญจนบุรี (ไทรโยค ศรีสวัสดิ์) ประจวบคีรีขันธ์ (ห้วยยาง); กลาง: สระบุรี (หินกอง); ตะวันออกเฉียงใต้: ปราจีนบุรี; ใต้: ชุมพร (หลังสวน) ระนอง ตรัง (เขาช่อง) กระบี่ (แหลมนาง) สตูล (ตะรุเตา)
การกระจายพันธุ์.- มีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง (Pantropic)
นิเวศวิทยา.- พบน้อยบนต้นไม้เตี้ย ๆ ริมหน้าผาสุดแผ่นดิน บริเวณที่มีต้นไม้หนาแน่น มีแสงปานกลาง ออกดอกเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม
ชื่อพื้นเมือง.- เอื้องคางอ้ม