|
กระโถนพระราม |
Sapria ram Bänziger & B. Hansen, Nat. Hist. Bull. Siam Soc. 45: 157. 1997. |
วงศ์ Rafflesiaceae |
|
พืชเบียนรากของพืชอื่น อวบน้ำ แยกเพศต่างต้น ใบลดรูปเป็นกาบ ดอกออกเดี่ยว ๆ สีแดงเข้ม ตาดอกมีใบประดับหุ้ม ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.5–11 ซม. สูง 6–8 ซม. กลีบรวม 10 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อมคล้ายเรียง 2 วง เชื่อมติดกันที่โคน กลีบรูปสามเหลี่ยมกว้าง วงนอกยาว 2–4 ซม. วงในแคบกว่าเล็กน้อย มีตุ่มเป็นจุดสีขาวหรือชมพูกระจาย แผ่นคล้ายกะบัง (collar) สีชมพูอมขาวหรืออมเหลือง กว้าง 0.8–1.8 ซม. มีแถบสี 3 แถบ ด้านบนมีเกล็ด (ramenta) รูปเส้นด้ายหนาแน่น ยาวประมาณ 5 มม. มีปุ่มประปราย ช่องเปิดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.3–3 ซม. จานฐานดอกรูปกระทะ มีขนหนาแน่น ในดอกเพศเมียกว้าง 2–3 ซม. ลึก 6.5–8.5 มม เส้าเกสร (central column) สูงประมาณ 2 ซม. กว้างประมาณ 1 ซม. ในดอกเพศผู้จานฐานดอกและเส้าเกสรแคบกว่าในดอกเพศเมียเล็กน้อย หลอดกลีบด้านในสีเข้ม มีเม็ดเล็ก ๆ กระจาย มีริ้วเป็นสันนูน 20 สัน สูง 2.5–5 มม. เชื่อมติดกันที่โคน เกสรเพศผู้ 20 อัน ไร้ก้าน เรียงชิดกันบนเส้าเกสรใต้จานฐานดอก เกสรเพศเมียติดรอบจานฐานดอก รังไข่ใต้วงกลีบ มีช่องเดียว ออวุลจำนวนมาก ผลสด กลม กลีบรวมติดทน |
|
|
|
การกระจายพันธุ์ พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่ตาก ภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี เพชรบุรี และภาคใต้ที่ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี ขึ้นเบียนรากไม้เถาในสกุล Tetrastigma ชนิด T. harmandii Planch. พบในป่าดิบแล้ง ความสูง 100-750 เมตร คล้ายกับกระโถนนางสีดา S. poilanei Gagnep. ที่แผ่นกระบังมีแถบไม่ชัดเจน สันที่ผนังหลอดกลีบสูงไม่เกิน 2 มม. และขนาดจานฐานดอกเล็กกว่า พบเฉพาะทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ชื่อสามัญคือ Rama’s spittoon |
|
ภาพ ปรีชา การะเกตุ (แก่งกระจาน เพชรบุรี) |
|