| ชมพูภูคา | Bretschneidera sinensis Hemsl., Hooker's Icon. Pl. 28: t. 2708 1901. | วงศ์ Akaniaceae | |
ไม้ต้น สูง 10–25 ม. ใบประกอบเรียงเวียน ยาว 30–70 ซม. ก้านใบยาว 10–25 ซม. ใบย่อยมี 3–9 คู่ ใบย่อยช่วงโคนเรียงสลับ รูปรี รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ เบี้ยวเล็กน้อย ยาว 6–25 ซม. ปลายใบแหลมหรือแหลมยาว โคนใบมนหรือกลม แผ่นใบด้านล่างมีนวลและขนสั้นนุ่มเล็กน้อย เส้นแขนงใบข้างละ 8–15 เส้น ก้านใบย่อยยาว 0.2–1 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง ตั้งขึ้น ยาว 20–45 ซม. กลีบเลี้ยงรูประฆังกว้าง ยาว 1.5–2 ซม. ปลายแยกตื้น ๆ 5 แฉก ดอกสมมาตรด้านข้าง สีขาวอมชมพู มีริ้วสีแดง มี 5 กลีบ รูปไข่กลับ แยกจรดโคน เรียงซ้อนเหลื่อม ยาวไม่เท่ากัน ยาว 1.8–2 ซม. โคนกลม มีก้านกลีบสั้น ๆ ติดบนหลอดกลีบเลี้ยง กลีบบนโค้งปิดเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้มี 8 อัน ติดบนจานรองฐานดอกที่เป็นวงบาง ๆ ก้านชูอับเรณูยาว 2.5–3 ซม. ปลายโค้ง มีขนที่โคน รังไข่เหนือวงกลีบ มี 3–5 ช่อง มีขนสั้นนุ่ม แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ก้านเกสรเพศเมียยาว 3–4 ซม. ปลายงอลง มีขนสั้นนุ่ม ยอดเกสรเป็นตุ่ม ผลแห้งแตกเป็น 3–5 ส่วน รูปรี ยาว 3–4 ซม. ผนังหนา มีขนละเอียดและตุ่ม ก้านผลยาว 2.5–3.5 ซม. เมล็ดรูปรีหรือเกือบกลม ยาว 1.5–2.5 ซม. มีเยื่อหุ้มสีส้ม | | | |
การกระจายพันธุ์ พบที่จีน เวียดนามตอนบน ไต้หวัน และภาคเหนือของไทยที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน ขึ้นตามที่ลาดชันในป่าดิบเขา ความสูง 1200–1500 เมตร | |
ภาพ สุรชาติ เกียรติพันธุ์ - ดอก; ประกิต มณีวัฒนเศรษฐ์ - ผล; ดอยภูคา, น่าน | |
เอกสารอ้างอิง
| de Craene, L.P.R. and E. Haston. (2006). The systematic relationships of glucosinolate-producing plants and related families: a cladistic investigation based on morphological and molecular characters. Botanical Journal of the Linnean Society 151: 453–494. | | Lu, L. and D.E. Boufford. (2001). Bretschneideraceae. In Flora of China Vol. 8: 197. | | Niyomdham, C. (1991). Bretschneideraceae. In Flora of Thailand Vol. 5(3): 239–240. |
|