| กล้วยบัว | Musa laterita Cheesman, Kew Bull. 4(3): 265. 1949. | วงศ์ Musaceae | |
ไม้ล้มลุก เจริญด้านข้างจากเหง้า แตกหน่อไกลจากต้นแม่ ลำต้นเทียมสูง 1–2.5 ม. ใบกว้างได้ถึง 40 ซม. ยาวได้ถึง 1.5 ม. เส้นกลางใบเป็นร่องลึก มีสีแดง ก้านใบยาว 40–50 ซม. ช่อดอกออกที่ยอด ตั้งขึ้น แกนและก้านช่อมีขนละเอียด ใบประดับสีส้มอมแดง ยาว 20–30 ซม. ช่วงโคนเป็นดอกเพศเมียที่เกสรเพศผู้เป็นหมันหรือดอกสมบูรณ์เพศ ช่วงปลายเป็นดอกเพศผู้ที่เกสรเพศเมียเป็นหมัน ดอกเรียง 1–2 แถว กลีบรวมไม่สมมาตร เรียง 2 วง ๆ ละ 3 กลีบ วงใน 1 กลีบแยกออก 2 กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด แยกจรดโคนด้านเดียว ปลายจักตื้น ๆ 5 จัก ใบประดับช่อดอกเพศผู้แต่ละใบมี 6–10 ดอก กลีบที่แยกรูปเรือ บางใส ยาวประมาณ 1 ซม. กลีบที่เชื่อมติดกันยาว 3–4 ซม. พับงอ เกสรเพศผู้ 5 อัน ใบประดับในช่อดอกเพศเมียมีประมาณ 4 ใบ แต่ละใบประดับมี 4–6 ดอก ดอกยาว 7–8 ซม. กลีบที่แยกสั้น กลีบที่เชื่อมติดกันยาวเท่า ๆ รังไข่ รังไข่ใต้วงกลีบ มี 3 ช่อง ออวุลจำนวนมาก ยอดเกสรเพศเมียคล้ายกระบอง ยาวประมาณ 3 มม. จัก 3 พูตื้น ๆ ผลย่อยแบบผลสดมีหลายเมล็ด รูปทรงกระบอกเป็นเหลี่ยม ยาว 8–10 ซม. เมล็ดแข็ง สีดำด้าน เรียบ | | | |
การกระจายพันธุ์ อินเดีย พม่า และภาคเหนือของไทย ขึ้นตามชายป่าเบญจพรรณ ที่โล่ง ความสูง 300–700 เมตร และยังพบตามตลาดต้นไม้ภายใต้ชื่อ M. ornata ‘Bronze’ หรือ M. ornata ‘Red Salmon’
หมายเหตุ: ปัจจุบัน Musa laterita Cheesman กลายเป็นชื่อพ้องของ Musa rubra Wall. ex Kurz (Joe, et al., 2016). ขอขอบคุณข้อมูลจาก ดร.ศศิวิมล แสวงผล มหาวิทยาลัยมหิดล | |
ภาพ ปรีชา การะเกตุ (แม่สอด ตาก) | |
เอกสารอ้างอิง
| Cheesman, E.E. (1949). The classification of the bananas. Kew Bulletin 1949: 24–28, 265–267. | | Staples, G.W. and D.R. Herbst. (2005). A tropical garden flora. Bishop Museum Press, Honolulu, Hawai`i. | | Joe, A., P.E. Sreejith and M. Sabu. (2016). Notes on Musa rubra Kurz (Musaceae) and reduction of M. laterita Cheesman as conspecific. |
|