| เหียง | Dipterocarpus obtusifolius Teijsm. ex Miq., Ann. Mus. Bot. Lugduno-Batavi 1: 214. 1863. | วงศ์ Dipterocarpaceae | |
ไม้ต้นผลัดใบ สูง 15–30 ม. กิ่งมีรอยหูใบชัดเจน มีขนยาวและขนรูปดาวสั้น ๆ ตามกิ่ง หูใบด้านนอก แผ่นใบด้านล่าง ก้านใบ ก้านดอก และกลีบเลี้ยงด้านนอก หรือเกลี้ยง หูใบรูปใบหอก ยาวได้ถึง 7 ซม. ใบรูปรี รูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่ ยาว 10–30 ซม. ปลายมน โคนรูปลิ่มกว้างหรือจักตื้น ๆ คล้ายรูปหัวใจ แผ่นใบพับจีบ เส้นแขนงใบตรง มี 10–20 เส้นในแต่ละข้าง เส้นแขนงใบย่อยแบบขั้นบันได ก้านใบยาว 2.5–6.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกสั้น ๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาว 3–10 ซม. ดอกเรียงซิกแซก ก้านดอกหนา ยาว 1–2 มม. กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันรูปถ้วย มี 5 กลีบ กลีบยาวรูปใบหอก 2 กลีบ ยาว 1–2 ซม. กลีบสั้นรูปสามเหลี่ยม ยาว 4–6 มม. ดอกสีขาวอมชมพู มี 5 กลีบ รูปใบหอก ยาว 4–6 ซม. ด้านนอกมีขนสั้น เกสรเพศผู้มีประมาณ 30 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 2 มม. อับเรณูมี 4 ช่อง ยาวประมาณ 5 มม. ปลายมีรยางค์รูปเส้นด้าย รังไข่รูปกรวย มีขนสั้นนุ่ม ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียว มีขนสั้นนุ่ม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5–3.5 ซม. รวมหลอดกลีบเลี้ยงที่หุ้ม ปีกยาว 2 ปีก รูปใบพาย ยาว 8–15 ซม. มีเส้นปีก 3 เส้น ปีกสั้น 3 ปีก รูปรีกว้าง ยาว 1.5–2 ซม. ขอบพับกลับ | | | |
การกระจายพันธุ์ พบที่พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และคาบสมุทรมลายูตอนบน ในไทยพบทุกภาค ขึ้นกระจายหรือเป็นกลุ่มหนาแน่นตามป่าเต็งรัง ป่าสน หรือป่าดิบแล้ง จนถึงความสูงประมาณ 1300 เมตร
หมายเหตุ: แก้ไขข้อมูล 18 มกราคม 2560 | |
ภาพ ดอก: ปรีชา การะเกตุ (อุบลราชธานี); ผล: มนตรี ธนรส (ผาแต้ม อุบลราชธานี) | |
เอกสารอ้างอิง
| Smitinand, T, J. E. Vidal and P. H. Ho. 1990. Dipterocarpaceae. In Flore du Cambodge, du Laos et du Vietnam. Vol. 25: 2–123. |
|