สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ)
(Concise Encyclopedia of Plants in Thailand)


หมวดตัวอักษร 


Index to botanical names


ค้นหาคำศัพท์
ค้นหาคำศัพท์   



กล้วย  สกุล
วันที่ 31 มีนาคม 2559

Musa L.

Musaceae

ไม้ล้มลุกอายุหลายปีหรือออกผลครั้งเดียว (monocarpic) เจริญด้านข้างจากเหง้า ลำต้นเทียมประกอบด้วยกาบใบ ใบขนาดใหญ่ ก้านใบยาว ช่อดอกหรือปลีกล้วยออกที่ยอดตั้งขึ้นหรือห้อยลง ใบประดับหลากสี ช่วงโคนเป็นดอกเพศเมียที่เกสรเพศผู้เป็นหมันหรือดอกสมบูรณ์เพศ ช่วงปลายเป็นดอกเพศผู้ที่เกสรเพศเมียเป็นหมัน ดอกส่วนมากเรียง 1–2 แถว กลีบรวมไม่สมมาตร เรียง 2 วง ๆ ละ 3 กลีบ วงใน 1 กลีบแยกออก 2 กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด แยกจรดโคนด้านเดียว ปลายจักตื้น ๆ 5 จัก เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่ใต้วงกลีบ มี 3 ช่อง ออวุลจำนวนมาก ติดแบบคว่ำ พลาเซนตารอบแกน ผลสดมีหลายเมล็ด เมล็ดแข็ง

สกุล Musa เป็นหนึ่งในสองสกุลของวงศ์ อีกสกุลคือ Ensete ส่วนสกุล Musella ถูกยุบให้อยู่ภายใต้สกุล Ensete สกุล Musa มีประมาณ 30 ชนิด ส่วนมากพบในเอเชียเขตร้อน ในไทยมีพืชพื้นเมืองประมาณ 10 ชนิด ส่วนกล้วยที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ส่วนมากเกิดจากการผสมระหว่างสายพันธุ์หรือผสมข้ามระหว่างกล้วยป่า M. acuminata Colla กับกล้วยตานี M. balbisiana Colla กล้วยเหล่านี้ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยเล็บมือนาง กล้วยหก กล้วยหอม และกล้วยหักมุก เป็นต้น ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “mauz” ซึ่งแปลว่ากล้วยในภาษาอาหรับ


เอกสารอ้างอิง

ราชบัณฑิตยสถาน. (2547). อนุกรมวิธานพืชอักษร ก. พิมพ์ครั้งที่ 2. ราชบัณฑิตยสถาน, กรุงเทพฯ.

Cheesman, E.E. (1949). The classification of the bananas. Kew Bulletin 1949: 265–267.

Cheesman, E.E.Cheesman, E.E. (1950). Classification of the Bananas. Kew Bulletin 5: 154.

Joe, A., P.E. Sreejith and M. Sabu. (2016). Notes on Musa rubra Kurz (Musaceae) and reduction of M. laterita Cheesman as conspecific.

Liu, A.Z., W.J. Kress and D.Z. Li. (2010). Phylogenetic analyses of the banana family (Musaceae) based on nuclear ribosomal (ITS) and chloroplast (trnL-F) evidence. Taxon 59(1): 20–28.

Staples, G.W. and D.R. Herbst. (2005). A tropical garden flora. Bishop Museum Press, Honolulu, Hawai`i.

Wu, D. and W.J. Kress. (2000). Musaceae. In Flora of China Vol. 24: 314–315.