กกแตกกอ เหง้ามีเกล็ด ลำต้นกลม เรียงเป็นแถวตามเหง้า สูงได้ถึง 1.2 ม. ใบลดรูปเป็นกาบ กาบใบปลายเปิด ยาว 12–26 ซม. ปลายตัด เบี้ยว ใบประดับมีอันเดียวรูปลิ่มแคบยื่นต่อจากลำต้น ยาว 2–6 ซม. ช่อดอกออกเดี่ยว ๆ ใบประดับย่อยคล้ายกาบ รูปไข่กว้าง ยาว 3–6.5 มม. ปลายกลม พับงอเล็กน้อย ฉีกง่าย ช่อดอกย่อยมีช่อเดียวหรือ spicoid รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาวเท่า ๆ ใบประดับย่อย ใบประดับของดอกคล้ายเกล็ด มี 2 อันที่โคนเรียงตรงข้ามหุ้มเกล็ดอื่น รูปใบหอก ยาว 4–6 มม. สันมีขนครุย ดอกเพศเมียมีดอกเดียว ดอกเพศผู้ติดบนใบประดับใต้ดอกเพศเมีย เกสรเพศผู้มีอันเดียว ยอดเกสรเพศเมีย 2–3 อัน ผลแห้งเมล็ดล่อน รูปไข่กลับ ยาว 3–4 มม. เว้าด้านข้าง ปลายมีจะงอยสั้น ๆ
พบที่มาดากัสการ์ เอเชียเขตร้อน ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยส่วนมากพบทางภาคใต้ ลำต้นใช้สานเสื่อและตะกร้า หรือทำเป็นไม้แห้งประดับ
สกุล Lepironia Rich. อยู่ภายใต้เผ่า Mapanioideae มีชนิดเดียว ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “lepis” เกล็ด และ “lepyriodes” เปลือกลอกบาง ๆ ตามลักษณะกาบ
|