| ไม้ต้น กึ่งอาศัยหรือขึ้นบนพื้นดิน สูงได้ถึง 35 ม. หูใบยาว 0.5–2.8 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปรีถึงหรือรูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่กลับ ยาว 2–14 ซม. แผ่นใบหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบย่อยเรียงขนานกัน มีต่อมไขที่โคนเส้นกลางใบ ก้านใบยาว 0.5–2 ซม. ดอกอยู่ภายในฐานดอกที่ขยายออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ตามซอกใบ รูปกลม รูปไข่กลับ หรือรูปรี เกลี้ยงหรือมีขนประปราย เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5–1.8 ซม. สุกสีเหลือง อมส้ม แดงเข้ม หรือม่วง ไร้ก้าน ช่องเปิดกว้าง 1–2 มม. มีขนประปรายด้านใน ใบประดับด้านบนขนาดเล็ก เรียงซ้อนเหลื่อม (สกุลย่อย Urostigma)
พบที่ปากีสถาน อินเดีย เนปาล จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1300 เมตร เป็นไม้ประดับให้ร่มเงา
| | | ชื่อสามัญ Benjamin’s fig, Golden fig, Weeping fig
| ชื่ออื่น จาเรย (เขมร); ไทร (นครศรีธรรมราช); ไทรกระเบื้อง (ประจวบคีรีขันธ์); ไทรย้อย, ไทรย้อยใบแหลม (กรุงเทพฯ, ตราด)
| | ไทรย้อย: แผ่นใบหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเรียงขนานกัน figs ออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ ไร้ก้าน (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)
|
|
|