ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. มีขนสั้นนุ่มหรือขนสากตามลำต้น กิ่ง และแผ่นใบ ใบเรียงเป็นกระจุกที่โคน เรียงเวียนบนต้น รูปรี รูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ใบช่วงโคนมักจักเป็นพูตื้น ๆ หรือลึก 1–2 คู่ ยาว 1–12 ซม. โคนเรียวสอบ ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบยาว 1–3.5 ซม. เป็นปีกแคบ ๆ ใบช่วงปลายกิ่งขนาดเล็ก ก้านสั้น ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นแยกแขนง ช่อกระจุกเส้นผ่านศูนย์กลาง 3–5 มม. ก้านช่อยาวได้ถึง 3 ซม. ใบประดับเรียง 2 วง รูปขอบขนาน ยาว 1–1.5 มม. ปลายแหลม ขอบจักชายครุย ฐานช่อดอกรูปกลมแป้น ดอกวงนอกเพศเมีย สีขาวเรียงหลายชั้น หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 0.5 มม. ปลายจัก 2 พู มีต่อมกระจาย ดอกวงในสมบูรณ์เพศ สีเขียวอมเหลือง หลอดกลีบสั้น ปลายแยกเป็น 4 แฉก เรียวแคบ มีต่อมกระจาย ผลแห้งเมล็ดล่อน รูปขอบขนาน โคนเรียวแคบ ขอบเป็นสัน ยาวประมาณ 1 มม. มีต่อมกระจาย ไม่มีแพปพัสหรือมีขนแข็งสั้น ๆ 1–3 อัน
พบในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยพบกระจายแทบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบเขา ชายป่า หรือทุ่งหญ้า ความสูง 500–2500 เมตร มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้อาเจียน
สกุล Dichrocephala L’Hér. ex DC. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Asteroideae เผ่า Astereae มีประมาณ 4 ชนิด พบในแอฟริกา มาดากัสการ์ เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “dichroos” สองสี และ “kephale” ช่อกระจุกแน่น ตามลักษณะของช่อกระจุกแน่นที่ดอกมีสองสี
|