สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ)
(Concise Encyclopedia of Plants in Thailand)


หมวดตัวอักษร 


Index to botanical names


ค้นหาคำศัพท์
ค้นหาคำศัพท์   

เอื้องชัน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2561

Clitoria ternatea L.

Fabaceae

ดูที่ อัญชัน

แดงชัน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2561

Clitoria ternatea L.

Fabaceae

ดูที่ อัญชัน



อัญชัน
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560

Clitoria ternatea L.

Fabaceae

ไม้เถาล้มลุก มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ใบย่อยมี 5–7 ใบ ก้านใบยาว 1.5–3 ซม. หูใบรูปเส้นด้าย ยาว 2–5 มม. หูใบย่อยคล้ายติ่งแหลม แผ่นใบรูปรูปรีหรือรูปไข่ ยาว 2.5–6.5 ซม. ปลายมน เว้าตื้น มีติ่งแหลม โคนมน แผ่นใบบาง มีขนสั้นนุ่มด้านล่างหรือเกลี้ยง เส้นแขนงใบข้างละ 4–5 เส้น ก้านใบย่อยยาว 1–2 มม. ช่อดอกมีดอกเดียว ใบประดับบาง กลีบเลี้ยงยาว 1.5–2 ซม. เชื่อมติดกันน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง กลีบดอกสีม่วง ชมพู หรือขาว ยาวได้ถึง 5.5 ซม. กลีบกลางรูปไข่กลับ ยาวประมาณ 3 ซม. กลางกลีบมักมีปื้นขาว กลีบคู่ข้างรูปรี กลีบปีกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ รังไข่มีขน ฝักรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาว 5–13 ซม. แบน ปลายมีจะงอยยาว มี 6–10 เมล็ด สีดำ รูปรี ยาวประมาณ 6 มม.

ถิ่นกำเนิดไม่ทราบแน่ชัด พบเป็นวัชพืชหรือปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปในเขตร้อน บางครั้งพบดอกซ้อน ดอกกินสดหรือชุบแป้งทอด นำไปคั้นให้สีใช้ผสมอาหาร น้ำดื่มแก้กระหาย หรือฟอกผมให้เงางาม ราก ใบ และดอกมีสรรพคุณด้านสมุนไพรหลายอย่าง โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบปราสาท และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

ชื่อสามัญ  Butterfly pea, Blue Pigeon-wings

ชื่ออื่น   แดงชัน (เชียงใหม่); เอื้องชัน (ภาคเหนือ)

อัญชัน: ใบประกอบมี 5–7 ใบย่อย มีทั้งดอกสีขาวและสีน้ำเงินอมม่วง (ภาพ: ราชันย์ ภู่มา)

เอกสารอ้างอิง

Kamkaen N1, Wilkinson JM. (2009). The antioxidant activity of Clitoria ternatea flower petal extracts and eye gel. Phytother Res. 23(11): 1624–5. doi: 10.1002/ptr.2832.

Sa, R. and M.G. Gilbert. (2010). Fabaceae (Clitoria). In Flora of China Vol. 10: 200–201.